เทคนิคการเลือก Hosting ที่ดีต่อการทำ SEO

โดยปกติแล้วการที่จะมีเว็บไซต์ได้นั้น จะต้องมีระบบเว็บเซิร์ฟเวอร์เป็นของตนเอง ซึ่งจะต้องติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์ และจะต้องเสียค่าใช้จ่าย ในการติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่สูงมากและต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลระบบตลอดเวลา การใช้งานแบบนี้จะเหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ และธุรกิจที่มีงบประมาณมาก การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เป็นของตนเอง โดยผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งหรือ Hosting Service Provider จะให้บริการรับฝากเว็บไซต์ให้กับองค์กรขนาดกลางและเล็กพร้อมทั้งให้บริการดูแลด้านระบบเว็บเซิร์ฟเวอร์ให้กับเว็บไซต์ที่มาใช้บริการ เพื่อให้สามารถออนไลน์ได้ตลอดเวลาและสามารถที่จะช่วยในการทำ SEO ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกบริษัทหรือเลือกผู้ให้บริการในด้าน Hosting ที่ดีต่อการทำ SEO จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูลเหล่านี้ คือ

– Hosting นั้นล่มบ่อยหรือเปล่า โดยจะลองเข้าเว็บของผู้ใช้บริการอื่นๆที่ใช้บริการอยู่ว่ามีล่มบ้างมั้ย ถ้ามีและบ่อยครั้ง ก็น่าจะเป็นคำตอบได้ว่าควรใช้งาน Hosting นั้นหรือไม่ เพราะการ Check เป็นวิธีที่ดีอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้อุ่นใจได้ว่า Hosting ที่ไม่ล่มแน่ๆและคุ้มค่าเงินที่เช่าไป

– Hosting นั้นให้บริการโอนถ่ายข้อมูลเท่าไหร่ โดยข้อมูลทุกๆ อย่างที่ถูกดึงมาจาก Server นั้นถือเป็นการโอนถ่ายข้อมูลทั้งสิ้น ซึ่ง Hosting จะกำหนดอัตราการโอนถ่ายข้อมูลจำกัดไว้ในแต่ละเดือน หากที่ใดให้ปริมาณการโอนถ่ายข้อมูลไว้มาก จะ ทำให้รองรับปริมาณ ผู้เข้าชมได้มากกว่า แต่ถ้าหากอัตราการโอนถ่ายข้อมูลน้อยเกินไป และถูกเรียกใช้หมดก่อนจะครบเดือนนั้นๆ ก็จะทำให้เข้าเว็บไม่ได้

– Hosting นั้นมีการ Backup ข้อมูลทุกหรือเปล่า เพราะหากเว็บโดน Hack หรือ เปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญในเว็บไปหรือข้อมูลถูกลบหน้าหายไปจะส่งผลให้ผู้ใช้ของเว็บนั้นลดลง โดย Google จะทำการดันเว็บลงไป และหากข้อมูลสำคัญถูกเปลี่ยนแปลง ก็อาจลดความหน้าเชื่อถือในเว็บได้เป็นอย่างมากและคนก็อาจไม่เข้าเว็บไซต์ ทำให้ Traffic ของเว็บลดลง และ อันดับตกลงไป

– ต้องดูว่า Hosting นั้นให้บริการถึงเวลาที่ต้องการหรือไม่ เพราะหากเมื่อไหร่เข้าเว็บไม่ได้ขึ้นมาจะหงุดหงิดเลยทีเดียวและ ยิ่งหากทำการติดต่อไปยังผู้ให้บริการ Hosting แล้วไม่มีคนรับสายเพราะอยู่นอกเวลา Support ก็จะส่งผลเสียร้ายแรงต่อ SEOเป็นอย่างมาก

– ต้องดูว่า Hosting นั้นมีการสำรองไฟหรือเปล่า ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ควรจะสอบถามกับผู้ให้บริการให้ละเอียด เพื่อจะได้

Posted in โฮสติ้ง | Tagged | Comments Off on เทคนิคการเลือก Hosting ที่ดีต่อการทำ SEO

Cloud Hosting กับ Dedicated hosting แตกต่างกันอย่างไร

Dedicated hosting เป็นทางเลือกแพลนโฮสติ้งที่เหนือกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ แชร์โฮส กับ VPS มีราคาที่แพงกว่า ซึ่งเรทราคาจะขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละบริษัท ไม่มีสคริปฟรีให้ใช้เพื่อเชื่อมโยงระบบอื่นๆ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับองค์กรที่มีพนักงานไอทีเพื่อดูแลระบบหรือติดตั้งสคริปใช้เอง

Cloud Hosting เป็นการนำเซิร์ฟเวอร์หลายๆเครื่องมาเชื่อมโยงกัน ซึ่งผู้ทำให้ลูกค้าได้ใช้ทรัพยากรที่ไม่จำกัดส่งผลให้สามารถรองรับปริมาณการโหลดหน้าเว็บได้เป็นจำนวนมาก โดยไม่จำกัดจำนวน

เมื่อเปรียบเทียบเซิร์ฟเวอร์แบบ Dedicated พบว่าประสิทธิภาพและการปฏิบัติการนั้น เซิร์ฟเวอร์แบบ cloud hosting มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ทำให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ในระบบคลาวด์มีความพึงพอใจกับความเสถียรภาพที่ดีกว่า นอกจากนี้อนาคตของ cloud hosting ก็ยังคงจะได้รับความสนใจมากขึ้น ทั้งนี้เพราะว่า นักออกแบบเว็บไซต์และผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งจำนวนมมากเริ่มที่จะมองเห็นความได้เปรียบเทียบนี้ ซึ่งดีกว่าแบบ dedicated webhosting อย่างมาก สำหรับประโยชน์ที่น่าสนใจของ cloud hosting คือ ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเซิร์ฟเวอร์จะไม่ล่มหรือระบบหยุดทำงาน เป็นอันขาด เว็บไซต์ของลูกค้าจะไม่มีการขาดประสิทธิภาพหรือล่าช้า และสามารถให้บริการกับผู้เข้าชมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงักใดๆทั้งสิ้น ทำให้เว็บไซต์ของลูกค้าสามารถได้โอกาสที่ดีในการแข่งขัน เนื่องจากมีการควบคุมจากระบบที่สมบูรณ์แบบอย่าง cloud hosting

สำหรับผู้ที่จะทำเว็บไซต์ส่วนตัวหรืออยากจะมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองสิ่งที่ควรจะเรียนรู้ก่อนจะอัพไฟล์หรือเว็บไซต์ขึ้น Hosting นั้น การอัพโหลดไฟล์ขึ้นโฮสนั้นสามารถทำได้ 2 วิธี คือ อัพโหลดผ่านซอฟแวร์ของผู้ให้บริการและอีกวิธีหนึ่งคือการอัพโหลดผ่านโปรแกรม FTP เช่น Filezilla ในปัจจุบันมีเว็บไซต์หรือบล็อกเกอร์มากมายสอนวิธีการใช้งานโปรแกรมนี้ ซึ่งผู้ทดลองทำเว็บไซต์สามารถจะเข้าไปศึกษาหาความรู้ เพิ่มเติมเสียก่อน  ซึ่งการอัพโหลดเว็บไซต์ขึ้น Hosting นั้น ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องยากหากผู้ทำเว็บไซต์มีความตั้งใจจริงในการที่จะเรียนรู้ นอกจากนี้ผู้ให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานก็จะมีฝ่ายบริการเพื่อดูแลให้คำแนะนำและช่วยจัดการในปัญหาที่ลูกค้าติดขัดได้ ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการโฮสติ้งที่ดีนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการทำเว็บไซต์

Posted in โฮสติ้ง | Tagged | Comments Off on Cloud Hosting กับ Dedicated hosting แตกต่างกันอย่างไร

ย้าย hosting ไม่ยากอย่างที่คิดเพื่อตอบโจทย์หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดที่โฮสต์เดิม

สำหรับการเปลี่ยนผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งหรือเรียกกันว่า ย้ายโฮสต์ นั้น หลายคนคงจะมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก มีข้อสงสัยต่างๆนานา เช่นตอนทำการเปลี่ยนหรือย้ายเว็บไซต์จะดาวน์ไหม(เข้าใช้งานไม่ได้) อีเมลล์จะใช้งานได้ไหม แล้วถ้าใช้งานไม่ได้เลยเมื่อไหร่จะใช้ได้ ย้ายเสร็จแล้วจะใช้งานได้เหมือนเดิมหรือเปล่า หัวข้อนี้ก็จะมาบอกตั้งแต่การเลือกโฮสต์ใหม่ การเตรียมการขั้นตอนการย้ายจนย้ายเสร็จว่าต้องทำอย่างไรบ้าง จะได้รู้กันว่าการย้ายโฮสต์ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

เริ่มต้นด้วยการหาโฮสต์ใหม่

ในส่วนนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคนแต่ที่แน่ๆทุกคนก็คงต้องการหาโฮสต์ใหม่ที่ตอบโจทย์หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดที่โฮสต์เดิมจนทำให้เราต้องมาหาโฮสต์ใหม่เช่นถ้าเราต้องการเปลี่ยนโฮสต์เพราะโฮสต์เดิมราคาแพงเราก็ต้องหาโฮสต์ใหม่ที่ถูกกว่าหรือถ้าหากโฮสต์เดิมล่มบ่อย, บริการไม่ดีเราก็อยากได้โฮสต์ใหม่ที่ไม่ล่มบริการดีๆฉะนั้นในส่วนนี้ก็แล้วแต่ปัญหาของแต่ละคน แต่ที่อยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็คืออยากให้ดูในเรื่องของทางเทคนิคและการใช้งานด้วย(อย่าเพิ่งตกใจไม่ใช่เรื่องทางเทคนิคที่เข้าใจยาก) โดยเราควรหาโฮสต์ใหม่ที่มีความใกล้เคียงกับโฮสต์เดิมทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์(ถ้าเป็นไปได้) ควรมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับโฮสต์เดิมหรือดีกว่าไปเลยและซอร์ฟแวร์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากเพราะถ้าเว็บเรามีการเขียนโปรแกรมไว้ใช้งานกับ database และ programming เช่น PHP ก็ควรเช็คให้แน่ใจว่าโฮสต์ใหม่ใช้เวอร์ชั่นไหนเปิด permission อย่างไรมี features ที่เราต้องการหรือเปล่าเช็คดูซอร์ฟแวร์หลักๆพวกโปรแกรมที่ใช้งานกับเว็บฯโควตาพื้นที่ในการใช้งานภาษาที่รองรับรูปแบบฐานข้อมูลโปรแกรมอีเมลล์ฯลฯเหมือนกับโฮสต์เดิมจะทำให้เรามีปัญหาน้อยที่สุดหรือไม่มีปัญหาเลยในการย้ายโฮสต์ข้อมูลเหล่านี้เราสามารถรู้ได้จากโฮสต์เดิมโดยสอบถามไปว่าเราใช้บริการอะไรกับเขาอยู่(ขอรายละเอียดเลย) และสำหรับโฮสต์ใหม่ถ้าเราดูข้อมูลเองได้ก็สามารถดูได้ที่หน้าเว็บฯของผู้ให้บริการใหม่ได้เลยแต่ถ้าเรากลัวว่าจะผิดพลาดก็มีวิธีง่ายๆเลยคือส่งข้อมูลที่โฮสต์เดิมส่งมาให้เราให้โฮสต์ใหม่ดูว่าโฮสต์เขาให้เราได้ตามนี้หรือเปล่าอย่าด่วนตัดสินใจให้หาให้ได้ใกล้เคียงที่สุดเพราะเราคงไม่อยากย้ายบ่อยๆกันแน่และอย่างที่บอกไปถ้าเราได้โฮสต์ใหม่ที่ใกล้เคียงกับโฮสต์เดิมก็จะทำให้การย้ายง่ายขึ้นมาก

การเตรียมข้อมูลทั้งUsername และPassword สำหรับการจัดการต่างๆและข้อมูลเว็บไซต์(ไฟล์เว็บไซต์) เมื่อติดต่อหรือหาโฮสต์ใหม่ได้แล้ว(อาจจะยังไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อเปิดบริการ) ในระหว่างนี้เราก็ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องข้อมูลต่างๆสิ่งที่สำคัญในการย้ายโฮสต์คือUsername และPassword สำหรับFTP (จากโฮสต์เดิม) เพื่อดาวน์โหลดไฟล์เว็บไซต์เรา, Username และ Password สำหรับ Control panel (จากโฮสต์เดิม) เพื่อจัดการกับฐานข้อมูล(ในกรณีที่เว็บไซต์เรามีฐานข้อมูล) อีกอย่างก็เพื่อตรวจสอบรายชื่ออีเมลล์ที่เรามีการใช้งานอยู่ให้เพื่อความครบถ้วน(เนื่องจาก Control panel ส่วนใหญ่จะบริการจัดการทั้งเว็บฯฐานข้อมูลและอีเมลล์) และที่สำคัญที่สุดคือ Username และ Password สำหรับการบริหารจัดการโดเมนเนม(จากผู้ให้บริการจดโดเมนเนมที่เราไปจดไว้) เพราะโดยส่วนใหญ่จะไม่ได้จดจำหรือเก็บ Username และ Password ของโดเมนเนมเพราะนานๆจะได้ใช้และการเปลี่ยนโฮสต์ก็จำเป็นต้องเข้าจัดการโดเมนเนมด้วยโดยหากเราเตรียมข้อมูลข้างต้นนี้ครบถ้วนก็จะทำให้เราย้ายโฮสต์ได้เร็วขึ้นมาก

ขั้นตอนก่อนการย้ายโฮสต์
ก่อนอื่นอยากให้สำรองข้อมูลไว้ให้ได้มากที่สุดจัดการให้หมดทั้งไฟล์เว็บไซต์, ฐานข้อมูลและอีเมลล์โดยไฟล์เว็บไซต์และฐานข้อมูลทำได้โดยการดาวน์โหลดผ่านโปรแกรม FTP หรือ Control panel แต่สำหรับอีเมลล์หากมีการใช้งานผ่าน Webmail ให้ติดตั้งการใช้งานอีเมลล์ผ่าน Email Client ต่างๆเช่น MS Outlook หรือ Outlook Express (ถ้าใช้อยู่แล้วก็ข้ามส่วนนี้ไป) เพื่อให้โปรแกรมเหล่านี้ทำการดาวน์โหลดอีเมลล์มาเก็บไว้ที่เครื่องของเจ้าของอีเมลล์เองเนื่องจากการย้ายโฮสต์เราจะไม่สามารถย้ายเนื้อหาในอีเมลล์ได้
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่จะหาวันที่จะทำการย้ายโฮสต์(ส่วนนี้ให้จ่ายเงินที่โฮสต์ใหม่ให้เรียบร้อยก่อนไม่งั้นคงเริ่มย้ายไม่ได้) โดยเริ่มโดยการตรวจสอบการใช้งานดูว่าเว็บฯเรามีการใช้งานน้อยที่สุดช่วงไหนทั้งจากตัวเราเองและการเข้าชมเว็บฯเพื่อจะได้ย้ายโฮสต์ในช่วงวันและเวลานั้นๆจากนั้นนัดแนะกับคนอื่นๆ(ถ้าเป็นบริษัทหรือองค์กรใหญ่ๆอาจทำเป็นจดหมายเวียนแจ้งหรือส่งอีเมลล์แจ้ง) ที่ใช้งานเว็บไซต์หรืออีเมลล์ว่าเราจะทำการย้ายโฮสต์ในวันและเวลาใดเพื่อไม่ให้มีการใช้งานในช่วงเวลาดังกล่าว(ในกรณีมีฐานข้อมูลต้องหยุดใช้งานก่อนล่วงหน้าเพื่อเก็บข้อมูลล่าสุดก่อนย้ายและไม่ให้เกิดการบันทึกข้อมูลลงฐานข้อมูลระหว่างการย้ายโฮสต์)

ขั้นตอนการย้าย
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมก็ลงมือย้ายโฮสต์ตามวันและเวลาที่นัดหมายได้เลยโดยการดาวน์โหลดไฟล์เว็บไซต์และฐานข้อมูล(ถ้ามี) ลงมาเก็บไว้ที่เครื่องคอมฯเราจากนั้นทำการอัพโหลดไฟล์เว็บไซต์และฐานข้อมูล(ถ้ามี) จากคอมฯเราไปไว้บนโฮสต์ใหม่โดยผ่านการ FTP เช่นกันสำหรับอีเมลล์ให้ทำการสร้างรายชื่ออีเมลล์ทั้งหมดที่เคยมีการใช้งานที่โฮสต์เดิมไว้บนโฮสต์ใหม่โดยส่วนใหญ่จะสร้างผ่าน Control panel หลังจากนั้นให้ลองตรวจดูว่าย้ายไฟล์เว็บฯเรียบร้อยหรือเปล่าโดยการตรวจสอบผ่าน Virtual Directory เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้ย้ายไฟล์เว็บฯมาครบ(คลิกดูไปเรื่อยๆถ้าเป็นไปได้ให้ดูทุกหน้าว่าเว็บฯสมบูรณ์หรือเปล่า) ถ้าเราทำทุกอย่างถูกต้องเว็บฯเราบนโฮสต์ใหม่จะต้องเหมือนกับเว็บฯที่อยู่บนโฮสต์เดิมทั้งหมด

สุดท้ายคือเปลี่ยนค่า DNS ของโดเมนเนมเราให้เป็นค่า DNS ของโฮสต์ใหม่เข้าระบบจัดการโดเมนเนมและเปลี่ยนค่า DNS ไปตามที่โฮสต์ใหม่แจ้งมาซึ่งในการเปลี่ยน DNS แต่ละครั้งจะต้องใช้เวลาในการอัพเดท(ให้โดเมนเนมเรารู้จักกับโฮสต์ใหม่) ประมาณ1-2 วันหลังจากนั้นโดเมนเนมของราจึงจะมาใช้งานร่วมกับโฮสต์ใหม่อย่างสมบูรณ์หลังจากนั้นเราควรจะตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าการย้ายเสร็จสมบูรณ์

ข้อแนะนำคือการย้ายโฮสต์ควรดำเนินการในระหว่างที่บริการโฮสต์เดิมยังไม่สิ้นสุดการใช้งานซึ่งวิธีนี้จะทำให้ในระหว่างการย้ายโฮสต์เว็บไซต์ของเราจะยังคงใช้งานได้ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่รอ DNS update อย่างสมบูรณ์จะมีผู้เข้าชมเว็บจาก ISP บางรายไปที่เว็บใหม่บางรายไปที่เว็บเก่ารวมถึงอีเมลล์ด้วยสิ่งที่ต้องทำคือ

1. ทำหน้า redirect จาก host เดิมไปที่โฮสต์ใหม่เพื่อความมั่นใจว่าทุกคนไปที่เว็บใหม่หมด
2. ทำ forwarding emails ที่โฮสต์เก่าไปที่อื่นก่อนเช่น Hotmail หรือหมั่นกลับเข้าไปเช็ค email ผ่านทางหน้า WebMail ที่โฮสต์เก่า (ในกรณีที่เข้าได้โดยไม่ต้องใช้ domain ของเรา) เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มี emails ตกค้างอยู่ที่เก่า

Posted in โฮสติ้ง | Tagged | Comments Off on ย้าย hosting ไม่ยากอย่างที่คิดเพื่อตอบโจทย์หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดที่โฮสต์เดิม

การทำงานของ Cloud Web Hosting

การทำงานของ Cloud Web Hosting คือการนำเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพการทำงานของ virtualized technology มาใช้งานโดยใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ จำนวนหลายเครื่อง ต่อกันเป็น Server Farm ซึ่งจะใช้ Storage Server เก็บข้อมูล ส่วนเครื่องเซิร์ฟเวอร์จะทำหน้าที่ในการประมวลผลเท่านั้น หากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เครื่องใดเครื่องหนึ่ง เสีย เกิดปัญหา เครื่องอื่นๆ ก็จะมีการทำงานแทนโดยอัตโนมัติ จึงทำให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้ต่อไปโดยที่เว็บไซต์ไม่ล่ม หากเกิดปัญหากับอุปกรณ์ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ทำให้ใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ระบบ High Availability (HA) จะเริ่มกระบวนการ HA ทันที และระบบจะทำการ Restart Virtual Machine ให้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ระบบสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการเข้าใช้บริการได้ตลอดเวลา 24 x 7 ซึ่ง Web Hosting ของเรามี Uptime 99.99% และมีระบบป้องกัน Spam และ Virus ที่ได้ผล 99.99% บวกกับประสิทธิภาพของ Server ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Cloud Computing Technology ซึ่งดูได้จาก สเปคของเครื่อง Cloud Server ที่สูงมาก และเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์จริงๆ (ไม่ใช้ PC มาทำ) ไม่เหมือนกับ Hosting บางรายที่ ราคาถูก ให้พื้นที่เยอะ แต่ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเวลาที่มีผู้เข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก อาจทำให้ CPU ทำงานหนัก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ Web Hosting หรือ Host ล่ม

* ระบบ Cloud มีหลายรูปแบบ ควรศึกษาให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจเช่าเว็บโฮสติ้ง เพราะมีเว็บโฮสติ้งบางรายที่แอบอ้างใช้แค่ชื่อ Cloud ของ OS (CloudLinux OS) ซึ่งจริงๆ เป็นแค่ OS แล้วมาบอกว่าเป็นระบบ Cloud Hosting ซึ่งจริงๆ แล้วระบบ Cloud Hosting ต้องใช้ Hardware ที่รับบน Server Farm ที่นำมาพ่วงต่อๆกันเป็นหลักเท่านั้น

Posted in โฮสติ้ง | Tagged , | Comments Off on การทำงานของ Cloud Web Hosting

ความน่าเชื่อถือและสิ่งที่ต้องคำนึง ในการเลือก Web hosting

4

ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ Web Hosting ลูกค้าสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ Web Hosting ได้จากรูปแบบของหน่วยงานว่าเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลระยะเวลาที่เปิดดำเนินการว่ามีการให้บริการนานแล้วหรือไม่ มีทะเบียนพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์หรือไม่ พิจารณาจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการด้วยนอกจากนี้ควรคำนึงถึงช่องทางการติดต่อ โทรศัพท์เบอร์ 02, เบอร์มือถือ, เบอร์แฟกซ์ อีเมล์ติดต่อ HostingLotus จดทะเบียนในรูปแบบของบริษัทถูกต้องตามกฏหมาย บริษัทจดทะเบียนมาแล้ว 1 ปี เราดำเนินธุรกิจด้าน Hosting มาแล้วในนามคณะบุคคลกว่า 5 ปี เว็บไซต์เราได้รับการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ด้วยจำนวนลูกค้ามากกว่า 1000 ราย

Spec ของเครื่อง server ที่ให้บริการ Hosting เราใช้เครื่อง Server Brand Name ทุกเครื่อง ขณะนี้เป็น Dell Server รุ่น R200 cpu Intel Xeon Quad-Core สำหรับให้บริการ Web Hosting ผู้ให้บริการบางเจ้า นำเครื่อง pc ธรรมดามาให้บริการ เมื่อมีผู้ใช้บริการมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดปัญหาเว็บล่ม และเปิดเว็บช้าได้ภาษาที่ใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ ภาษาที่ใช้ในการพัฒนา หลักๆ จะมีอยู่ 2 ภาษา คือ PHP กับ ASP ถ้าเป็น Windows Server จะรองรับทั้งสองภาษา Hosting Lotus ให้บริการด้วย Linux Server จะรองรับเฉพาะ PHP แต่การทำการ PHP บน Linux Server จะแรง เร็ว และเสถียรกว่า บริการเสริมต่างๆ เรามีบริการเสริมให้บริการติดตั้งโปรแกรมสำเร็จรูปต่าง ๆ ให้ลูกค้า เช่น เว็บบอร์ด  เว็บสำเร็จรูป เว็บอีคอมเมริช์ บล็อก ระบบการเรียนการสอนออนไล์ e-Learning บริการย้ายข้อมูลจากผู้ให้บริการรายอื่น

Web Hosting ตั้งอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ การที่จะเลือกว่า Web Hosting ควรอยู่ในประเทศ หรือต่างประเทศดี ควรคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาที่เว็บไชต์ ถ้าเป็นลูกค้าในประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ในประเทศ ส่วนมากตั้งอยู่ที่ตึก CAT เพราะเวลาลูกค้าเรียกดูข้อมูลในเว็บไซต์จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า แต่หาก ลูกค้าคุณเป็นลูกค้าต่างประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ จะได้รวดเร็วกว่าที่จะต้องเข้ามา ดูข้อมูล ที่เก็บไว้ที Hosting ในเมืองไทย แต่ Hosting ที่ตั้งอยู่ที่ต่างประเทศ อาจจะประสานงานให้การ support ยากกว่า hosting ในเมืองไทยเล็กน้อย

Posted in โฮสติ้ง | Comments Off on ความน่าเชื่อถือและสิ่งที่ต้องคำนึง ในการเลือก Web hosting

ความต้องการเลือกใช้ Web Hosting จากต่างประเทศ

เว็บโฮสติ้ง ช่วยให้เว็บของลูกค้าสามารถออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เว็บสามารถเปิดเข้าชมได้ตลอดโดยไม่มีการหยุดทำงาน เพราะการหยุดทำงานเพียง 1-2 ชั่วโมงสำหรับบางธุรกิจ อย่างเช่น ธุรกิจรับจองตั๋วเครื่องบิน ธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่มีการค้าขายสินค้าอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายถึงการสูญเสียมหาศาล ดังนั้นโฮสติ้งของจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ และพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้มี Downtime เกิดขึ้น มีระบบจัดการเว็บไซต์ของโฮสติ้งเป็นระบบที่ทีมงานของเราเป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เว็บโฮสติ้งเป็นที่นิยม เพราะถูกออกแบบมาตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และสะดวกต่อการใช้งาน โดยที่ระบบจะอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถจัดการเว็บไซต์ได้ทุกอย่าง

สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการตัดสินใจเลือกใช้บริการเว็บโฮสติ้งต่างประเทศก็คือการติดต่อสื่อสาร เนื่องจากการติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการใช้บริการเว็บโฮสติ้ง เริ่มตั้งแต่สอบถามข้อมูลก่อนตัดสินใจใช้บริการ ไปจนถึงบริการหลังการขาย แจ้งปัญหาการใช้งานต่างๆ ซึ่งการใช้บริการ support เป็นตัวตัดสินสำคัญว่าโฮสไหนบริการดีหรือไม่ดี และแน่นอนว่าคุณจะต้องใช้บริการหลังการขายมากกว่าก่อนการขายมาก โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ให้บริการโฮสติ้งควรมีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัท, มีลูกค้ารายใหญ่ หรือสำคัญๆที่ใช้บริการอยู่ และควรมีองค์กรหน่วยงาน รับรองการให้บริการ

ข้อดีของการเลือกใช้ Web Hosting ต่างประเทศ

1. มีราคาถูก Web Hosting ของอเมริกา เพราะทางรัฐบาลสนับสนุนธุรกิจทางด้านนี้ นอกจากโฮสติ้งแล้ว ค่าจดโดเมนยังราคาถูกมากด้วย
2. ระบบการจ่ายเงินน่าเชื่อถือ เพราะกฎหมายเข้มงวดมาก ท่านสามารถจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้อย่างสบายใจ
3. Support ดี ที่ต่างประเทศเค้าจะมีคนคอยแก้ปัญหาให้เราตลอด 24 ชม. สามารถ email แจ้งได้ตลอด
4. พื้นที่และ data transfer สูง ด้วยต้นทุนที่ถูกทำให้พื้นที่และ data transfer สูงตามไปด้วย เค้าไม่หวงเรื่อง bandwidth เหมือนบ้านเราเพราะเค้าใช้สายส่งเป็นใยแก้วนำแสงทั้งหมด ทำให้ความเร็วสูงมาก
5. ระบบ security ดี
6. เว็บมีความเสถียรมาก ล่มยาก
7. SEO มีโอกาสดีกว่า ดูได้จาก page rank ของเว็บไซด์ที่ต่างประเทศ แต่ละเว็บสูงมาก

Posted in โฮสติ้ง | Tagged | Comments Off on ความต้องการเลือกใช้ Web Hosting จากต่างประเทศ

การแบ่งประเภทของบริการเว็บโฮสติ้ง

บริการเว็บโฮสติ้งก็ยังแบ่งได้อีกหลายแบบหลายชนิดขอแนะนำแต่ละชนิดแบบง่ายๆดังนี้

1. Shared Hosting เป็นบริการเว็บโฮสติ้งที่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ธรรมดาทั่วไปเว็บเดียวเช่นเว็บส่วนตัวบริษัทองค์กรฯลฯ ตามที่ชื่อบอก shared hosting ก็คือการซอยพื้นที่ในเครื่องเซิฟเวอร์มาให้เช่า ดังนั้น ทรัพยากรของเครื่องจะถูกแชร์กันหลายผู้ใช้งาน shared hosting เป็นบริการที่นิยมกันทัวไปเพราะราคาไม่สูง

2. VPS Hosting บริการเซิร์ฟเวอร์เสมือนบริการที่เหมือนกับมีเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองVPS ย่อมาจาก Virtual Private Server โดยสามารถจัดการได้ผ่าน Remote desktop connection เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีความต้องการที่จะใช้งานโปรแกรมหรือ Application เสริมเฉพาะที่บริการ Shared Hosting ไม่มีหรือไม่อนุญาตให้ติดตั้งเพื่อใช้งานเนื่องจากบริการนี้สามารถติดตั้งโปรแกรมหรือ Application ได้ตามใจชอบและยังเหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีการเข้าชมสูงเนื่องจากการใช้งานของ Data Transfer รวมทั้ง Bandwidth จะถูกแบ่งการใช้งานชัดเจนไม่แชร์ร่วมกับเว็บไซต์อื่นเหมือน Shared Hosting

3.Dedicated server บริการเครื่องเซิร์ฟเวอร์สำหรับเว็บไซต์ของคุณใช้งานแต่เพียงผู้เดียวทั้งนี้อาจจะใช้งานหลายเว็บไซต์ (ที่เราดูแล) ก็ได้หรือจัดสรรแบ่งพื้นที่เพื่อขายเป็นบริการ Shared Hosting ก็ได้แต่โดยส่วนมากการใช้งานจะเหมาะสำหรับบริษัทองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่หรือเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่ต้องการความเสถียรปลอดภัยและความรวดเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์เนื่องจากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั้งเครื่องจะมีเพียงเว็บไซต์ของเราเท่านั้น

4.Reseller Hosting เป็นบริการสำหรับผู้ให้บริการจัดทำเว็บไซต์ผู้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อนำไปจัดสรรแบ่งพื้นที่ให้กับลูกค้าที่มาจ้างทำเว็บไซต์หรือขายต่อในนามของตัวเองและยังเหมาะสำหรับคนที่มีหลายเว็บไซต์ที่ต้องดูแลเนื่องจากสามารถบริหารจัดการได้ผ่านระบบควบคุมเดียวควบคุมได้ทุกเว็บ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบริการหลักๆของเว็บโฮสติ้งเท่านั้น เนื่องจากบริการอาจถูกปรับเปลี่ยนและเรียกกันในชื่อบริการใหม่เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งแต่ละราย

ส่วนการเลือกบริการเว็บโฮสติ้งที่เหมาะสมนั้น ควรคำนึงถึงเว็บไซต์ของเราและการใช้งานที่เกิดขึ้นจริงโดยไม่จำเป็นต้องซื้อบริการที่เกินความจำเป็นเพราะเว็บไซต์สามารถย้ายจากบริการเว็บโฮสติ้งที่เล็กกว่าไปใช้บริการเว็บโฮสติ้งที่ใหญ่ขึ้นได้ตลอดเวลาดังนั้นหากเราเพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์หรือเว็บไซต์ของเรายังไม่โตหรือขยายมากก็อาจจะเริ่มจากบริการขนาดเล็กก่อนเมื่อเว็บไซต์ของเรามีขนาดใหญ่ขึ้นผู้เข้าชมมากขึ้นเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงบริการได้ด้วยวิธีนี้จะทำให้เราไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็นอีกด้วย

Posted in โฮสติ้ง | Tagged | Comments Off on การแบ่งประเภทของบริการเว็บโฮสติ้ง

หลักสำคัญในการเลือกเว็บ hosting ให้เหมาะสมกับงานเพื่อผลที่จะตามมาภายหลัง


ขณะที่ไอซีที มีบทบาทมากขึ้น อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางธุรกิจที่สร้างความสำเร็จให้ผู้ประกอบการมาแล้วมากมายทั้งที่ใช้เป็นส่วนเสริมให้กับธุรกิจที่ทำอยู่ในช่องทางอื่น กับการใช้เป็นช่องทางหลักเพื่อสร้างธุรกิจออนไลน์ขึ้นมาอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เติบโตขึ้นอย่างมากในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉพาะการใช้ online social network ที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างสังคมบนโลกออนไลน์

ก่อนอื่นคุณควรรู้จักโฮสติ้งก่อนว่าคืออะไร hosting คือ พื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลรูปภาพ หรือ โปรแกรมต่างๆในส่วน ที่เราเรียกว่า เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการเผยแพร่เว็บเพจ ให้ผู้อื่นเข้าชม โดย Web Hosting จะเชื่อมต่อกับ internet ตลอดเวลา

หลักในการเลือก Web Hosting คุณควรพิจารณาจากอะไร
– ขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล
ขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล ต้องพอเพียงกับข้อมูลของ Web Site ที่จัดทำ ปกติพื้นที่ขนาด 5 MB ก็เพียงพอต่อการนำเว็บไซต์ทางธุรกิจทั่วไป ที่มี่ภาพและข้อมูล หากมีข้อมูลเป็นจำนวนมาก เช่น ข้อมูลรูปภาพ หรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่จะเปิดให้ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้หลายรายการ และแต่ละไฟล์มีขนาดใหญ่ ท่าน อาจจะต้องพื้นที่เพิ่ม
– Hosting ของคุณจะตั้งอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ
กลุ่มเป้าหมายของเว็บของคุณที่จะเข้ามาที่คุณคือใคร ถ้าเป็นลูกค้าในประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ ในประเทศ เพราะเวลาลูกค้าคุณกดดูข้อมูลในเว็บไซต์คุณ ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า แต่หาก ลูกค้าคุณเป็นลูกค้าต่างประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ จะได้รวดเร็วกว่าที่จะต้องเข้ามา ดูข้อมูล ที่เก็บไว้ที Hosting ในเมืองไทย
– เว็บของคุณจะใช้โปรแกรมภาษาอะไรในการพัฒนา
เว็บไซต์คุณมีการใช้เว็บโปรแกรมมิ่งใน การทำเช่น เว็บบอร์ด , โปรแกรมส่งเมล์หาสมาชิก (Mailing List), หรือ โปรแกรมการเก็บฐานข้อมูล (Database) คุณควรจะตรวจสอบกับทางผู้ให้บริการ Hosting ว่า Server ของเค้าเป็น OS อะไร ถ้าหากเป็น Windows ก็สามารถใช้กับ ภาษาในการเขียนโปรแกรมได้แก่ ASP, PHP, Perl ได้ แต่หากเป็น Unix ก็จะสามารถใช้ได้แค่ PHP, Perl เท่านั้น และกรณีที่คุณมีการใช้งานฐานข้อมูล (Datbase) คุณต้องตรวจสอบด้วยว่า ผู้ให้บริการ Hosint รองรับ Database ที่ท่านใช้หรือไม่ เช่น MySQL,MS SQL Server,MS Access
– ระบบจัดการ Web hosting หรือ Control panel
ควรเลือกระบบจัดการ Web hosting ที่มีความง่ายและยืดหยุ่นพอ สำหรับการควบคุมและดูแลเว็บไซต์ตลอดจนอีเมล์ของคุณ โดยทั่วไป Web hosting ควรมีบริการ Control Panel ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงหรือมี Feature ในการใช้ Email, DNS, FTP, Site statistics, CGI เป็นต้น
– จำนวน Data transfer (ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งออกมาจากเว็บของคุณ)
โดยเว็บไซต์ส่วนใหญ่จำนวน 98% จะใช้ data transfer ไม่เกิน 2-5 GB ต่อเดือนเท่านั้น
– ระบบ Backup ข้อมูล Web Hosting
ที่ดีควรมีระบบสำรองข้อมูล(Backup) รายวัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจนข้อมูลของ Web Site สูญหาย

Posted in โฮสติ้ง | Tagged , | Comments Off on หลักสำคัญในการเลือกเว็บ hosting ให้เหมาะสมกับงานเพื่อผลที่จะตามมาภายหลัง

การเลือก Hosting ที่ดีควรดูจากอะไรบ้าง?

เนื่องจากในปัจจุบันมีเว็บโฮสติ้งเกิดขึ้นมากมาย เราจะมีวิธีการเลือก Web Hosting อย่างไร เนื่องจาก Web Hosting ต่างๆ ในปัจจุบัน ช่างมากมายเสียเหลือเกิน เนื่องจากเปิดง่าย และในปัจจุบันยังมีทางเลือกแบบเช่าเครื่อง ซึ่งทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินมากอีกด้วย

1. ประสิทธิภาพของเครื่อง Server ที่มาใช้ Host

คุณควรจะเช็กก่อนว่าสเป็กของเครื่อง Server ที่จะมา Host ข้อมูลของคุณมีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง CPU, RAM หรือ Harddisk มีขนาดเท่าไร เพราะจะมีส่วนสำคัญในการทำงานและการให้บริการของ Server อย่างมาก ซึ่งหากคุณเลือกสเป็กเครื่อง Server ที่ต่ำอาจจะมีราคาถูกกว่า เครื่องสเป็กที่สูง แต่ประสิทธิภาพและความเร็วในการให้บริการก็จะลดลงด้วย

2. จำนวนลูกค้าต่อเครื่อง Server ที่ให้บริการ

ให้สอบถามไปยัง Hosting ที่ให้บริการว่ามีลูกค้ากี่คน ต่อเครื่อง Server ของเค้า 1 เครื่อง ซึ่ง Hosting ที่ดีจะต้องมีการกำหนดจำนวนลูกค้ากับการรองรับในการให้บริการต่อ 1 Server ทั้งนี้เพื่อจะสามารถรองกรับการใช้งานของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (จำนวนการรับลูกค้า ต่อเครื่อง Server ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่ประสิทธิภาพของเครื่อง Server)

3. ความเร็วในการรับส่งข้อมูล Web Hosting ที่ดีต้องมีความสามารถในการส่งข้อมูลได้รวดเร็ว

หาก Hosting ของท่านตั้งอยู่ที่ ISP ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่แล้วละก็ จะช่วยทำให้การรับ-ส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ของท่านไปยังลูกค้าคุณได้เร็วยิ่งขึ้น

4. ระบบ Backup ข้อมูล Web Hosting

ระบบ Backup ข้อมูล Web Hosting ที่ดีควรมีระบบสำรองข้อมูล(Backup) รายวัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจนข้อมูลของ Web Site สูญหาย โดยคุณสามารถเรียกข้อมูลที่ Back Up เอาไว้กลับมาให้บริการได้

5. ปริมาณข้อมูลที่รับ-ส่งได้ (Bandwidth)

Hosting บางแห่งจะมีการจำกัดปริมาณข้อมูลที่มีการรับส่งเข้าออกจากเว็บไซต์ของคุณ โดยบางแห่งจะสามารถรับส่งได้ไม่จำกัด หรือบางแห่งอาจจะมีการกำหนดเอาไว้ เช่นต่อเดือน ปริมาณการรับส่งข้อมูลของเว็บไซต์คุณ 500 MB ซึ่งหากเกิน ก็อาจจะมีการชาร์ตเงินเพิ่มต่อจำนวนข้อมูลที่มีการรับส่งเพิ่มมากขึ้น

6. จำนวน e-mail ที่สามารถใช้ได้

เช็กว่าพื้นที่ๆคุณเช่า เค้าจะมีบริการ E-mail ให้กี่ E-mail ให้แก่คุณโดยคุณสามารถกำหนดชื่อ E-mail ได้ตามที่คุณต้องการ

7. การ Support หรือการให้บริการหลังการขาย

การให้บริการหลังการขายถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ท่านควรจะเช็กก่อนว่าเวลาในการให้บริการของ Web Hosting ในการให้บริการตอบคำถาม หรือติดตามปัญหาต่างๆ รวดเร็วแค่ไหน มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันไหม? (ส่วนใหญ่คนที่เลือกบริการ Hosting ต่างประเทศมักจะเจอปัญหาการติดต่อกับผู้ให้บริการลำบาก)

8. ราคาหรือค่าบริการ

อัตราค่าบริการที่ Web Hosting เรียกเก็บเป็นรายเดือนจะขึ้นอยู่กับความสามารถและประสิทธิภาพของ Hosting ที่ต้องการ โดยราคาค่าบริการบางแห่ง มีค่าบริการหลัก 10 บาทไปจนถึง เป็นหมื่นต่อเดือน โดยทั่วไปผู้ให้บริการ Web Hosting จะมีบริการให้เลือกหลายรูปแบบ บางที่จะเรียกเก็บค่า Setup หรือค่าแรกเข้าเมื่อเริ่มใช้บริการ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงปัจจัยบางส่วนในการเลือก Hosting ในการเก็บรักษาข้อมูลของเว็บไซต์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้ดีตั้งแต่แรก เพราะหากมีปัญหาและท่านต้องย้าย Hosting จะเป็นเรื่องที่จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมาก ดังนี้ ใช้เวลาเลือกซักนิดก่อน จะได้ใช้ไปนานๆ

ปัจจุบันธุรกิจเว็บ hosting เป็นธุรกิจที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยเงินลงทุนเพียงแค่ไม่กี่ร้อยบาท ถึงไม่กี่ หมื่นบาท ก็สามารถทำธุรกิจเว็บ hosting ได้แล้ว ทำให้มีผู้ประกอบการใหม่ๆ เข้ามาสู่ธุรกิจนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เป็นผู้ที่ทำเป็นอาชีพจริงๆ หรือ มือสมัครเล่น รวมถึงนักศึกษาที่ต้องการทดลองหรือหารายได้พิเศษจากธุรกิจนี้ ทำให้มีการแข่งขันกันสูง ราคาและคุณภาพการบริการก็หลากหลาย

Posted in โฮสติ้ง | Tagged , | Comments Off on การเลือก Hosting ที่ดีควรดูจากอะไรบ้าง?

การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของธุรกิจเว็บโฮสติ้ง

ธุรกิจเว็บโฮสติ้ง มีการแข่งขันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความเสี่ยงในหลายๆด้าน นอกจากนี้ผู้ทำธุรกิจเว็บโฮสติ้งยังมีจำนวนมาก ในขณะที่จำนวนลูกค้ากลับลดน้อยลง อันเนื่องมาจากความไม่รู้ ไม่เชี่ยวชาญด้านเว็บไซต์อีกทั้งไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐ เป็นต้น

ข้อดีของการทำธุรกิจเว็บโฮสติ้งยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง เพราะผู้ให้บริการแต่ละรายพยายามที่จะพัฒนาธุรกิจทั้งในแง่ของคุณภาพของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ บุคลากร งานบริการ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ บางรายอาจแตกไลน์ธุรกิจ ให้ครอบคลุมวงการธุรกิจ เว็บ โฮสติ้ง

ทางด้านตัวลูกค้าเองสามารถเลือกผู้ให้บริการได้หลากหลาย ลูกค้ามีอำนาจในการตัดสินใจใช้บริการ หากการใช้บริการไม่สนองความต้องการของลูกค้า ลูกค้าสามารถบอกเลิกสัญญา และย้ายไปใช้บริการเว็บโฮสติ้งรายใหม่ได้ การย้ายไปใช้บริการกับผู้ให้บริการรายใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ลูกค้าอาจจะไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ ทำให้ผู้ให้บริการต่างแข่งขันกันเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาด

ผู้ให้บริการใช้โปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ ส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่นคล้ายๆกัน เช่น เมื่อซื้อแพคเกจโฮสฟรีจดทะเบียนชื่อโดเมน นั่นแสดงให้เห็นว่าธุรกิจเกี่ยวกับผู้ให้บริการโฮสติ้งมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ถึงแม้ต้นทุนจะสูงขึ้นก็ตาม ด้วยโปรโมชั่นที่ผู้ให้บริการนำมาเป็นจุดขาย ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้บริการโฮสติ้งให้ตรงกับความต้องการได้ดีที่สุด บางรายอาจพิจารณาด้านราคา ด้านคุณภาพ หรือการให้บริการที่ดี

โฮสติ้งที่มีราคาแพงไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป ในการแข่งขันของธุรกิจประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเพื่อใช้บริการเลย ของดีโปรโมชั่นที่ตรงกับความต้องการยังมีให้ใช้บริการอยู่มากมาย ทางด้านลูกค้าควรคำนึงถึงเว็บไซต์และการใช้งานที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องซื้อบริการทีเกินความจำเป็นเพราะผู้ใช้บริการสามารถย้ายโฮสได้ตลอดเวลา ผู้ใช้อาจเริ่มจากบริการแพคเกจเล็กๆก่อนแล้วย้ายไปใช้แพคเกจที่ใหญ่ขึ้นในภายหลังได้ อีกทั้งผู้ให้บริการยังมีเซิร์ฟเวอร์ทั้งในและต่างประเทศไว้ให้บริการ นั่นจึงเป็นประโยชน์อย่างมาก หากศึกษาข้อมูลหรือสอบถามจากผู้ให้บริการ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะจะทำให้เราได้ใช้บริการโฮสติ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Posted in โฮสติ้ง | Tagged | Comments Off on การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของธุรกิจเว็บโฮสติ้ง

สำหรับอนาคต hosting กับการแข่งขันทางด้านธุรกิจ

บริการเว็บโฮสติ้ง เป็นบริการสำหรับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ หรือต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง โดยบริการนี้จะเปิดให้ผู้ที่ใช้บริการได้มีพื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของตนเองอยู่บนระบบเว็บเซิฟเวอร์เมื่อมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณผ่านโดเมนเนม (โดเมนเนมคืออะไร?) ระบบก็จะนำข้อมูลเว็บไซต์ที่ผู้ใช้บริการฝากไว้ภายในเว็บเซิฟเวอร์ไปแสดงแก่ผู้เข้าชม โดยเว็บไซต์ของคุณจะสามารถเข้าชมได้จากทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง

ธุรกิจ hosting คือการนำพื้นที่ของคอมพิวเตอร์ server มาแบ่งให้บริการแก่ผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไป ซึ่งสามารถที่จะ access ผ่านเข้ามาได้ทางช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น internet , FTP, e-mail ครับ โดยปัจจุบันการแข่งขันจะจำกัดอยู่ในเรื่องของ พื้นที่ และ ราคา ซึ่งหลาย ๆ ผู้ให้บริการ hosting ทำราคาได้ถูกมาก ทั้งนี้เนื่องมาจากหลายปัจจัยทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ hardware ที่มีราคาถูกลง กับผู้ให้บริการบางรายยังเป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่ ซึ่งทำให้ต้นทุนในการบริหารจัดการไม่สูง ซึ่งผลที่ตามมาอาจจะเป็นเรื่องของงานบริการหลังการขาย ซึ่งหมายถึงความรับผิดชอบต่อลูกค้านั่นเองครับ

เนื่องจากข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งราคาที่สมเหตุสมผล พอที่จะรักษาข้อมูลของลูกค้าที่มีความสำคัญให้สามารถเก็บบน hosting ได้อย่างปลอดภัย ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องใช้ในการพิจารณาเลือก hosting เนื่องด้วยต้นทุนค่าบริการ hosting อยู่ในหลักพันบาท แต่หากข้อมูลของลูกค้ามีมูลค่าหลายแสนบาท การพิจารณาเลือก hosting คงต้องเลือกให้เหมาะสมด้วย เนื่องจากบางผู้ให้บริการก็ไม่สามารถการันตีในข้อมูลเหล่านั้นของลูกค้าได้ การพิจารณาเลือก hosting จึงต้องพิจารณาตามหลัก ROI (Return On Investment) ก็คือลงทุนกับมันเท่าไหร่ ก็จะได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับการลงทุน ถ้าหากข้อมูลของลูกค้ามีความสำคัญมาก ก็ต้องลงทุนมาก อาจจะมีบริการซื้อประกันข้อมูล เกิดขึ้นในอนาคตผู้ให้บริการ hosting ก็อาจจะต้องทำการปรับตัว ขายบริการ hosting insurance ก็เป็นไปได้

ในอนาคตอาจจะมีการแข่งขันกันในด้านของระบบความปลอดภัย และการประมวลผล เพราะเป็นไปได้ว่าหลายบริษัทในอนาคตจะมีการนำ application มาวางในระดับ server แล้วใช้เทคโนโลยี่ cloud computing ในการประมวลผล โดยอาจจะมีการเก็บค่าบริการตามการใช้งานจริง ตาม request หรือ ตาม traffic ที่ใช้งาน ทั้งนี้การที่จะเกิดธุรกิจในรูปแบบนี้ ต้องมาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากจะต้องมีการแยก application ออกจากตัวบริษัทมาฝากไว้ที่ hosting ซึ่งบริษัทลูกค้า จะต้องมีความมั่นใจในความเป็นมืออาชีพ ของผู้ให้บริการ hosting ด้วย

Posted in โฮสติ้ง | Tagged , | Comments Off on สำหรับอนาคต hosting กับการแข่งขันทางด้านธุรกิจ

ธุรกิจออนไลน์ต้องมี hosting ที่มีประสิทธิภาพ

เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจออนไลน์ ในตัดสินใจเลือกว่าเว็บ บริการโฮสต์ไหนดีที่สุด กรณีถ้าเป็นผู้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ที่ เป็นที่นิยมหรือที่รู้จักกันดีและเชื่อถือได้ คุณจะไม่พบปัญหา แต่ถ้าเป็นผู้ ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่ไม่ดี ก็จะเป็นฝันร้าย

การเลือกบริการโฮสต์ที่เหมาะสม ตามคุณลักษณะที่สำคัญที่คุณต้องการ เพื่อให้แน่ใจว่า คุณกำลังเลือกบริการโฮสต์ที่ดีที่สุดดังต่อไปนี้

จำนวนเงินที่เว็บพื้นที่: ผู้ให้บริการเว็บโฮสต์ปกติจะกำหนดจำนวนพื้นที่ ในเซิร์ฟเวอร์ คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าจํานวนพื้นที่เหมาะกับเว็บไซต์ และความต้องการธุรกิจของคุณ คุณอาจต้องขยายธุรกิจออนไลน์ของ คุณในอนาคต ซึ่งก็จะต้องการ พื้นที่เพิ่ม ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่ บริษัทให้บริการพื้นที่เว็บสามารถจัดหาพื้นที่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งหากเว็บไซต์ของ ท่านเป็นภาพกราฟิก หรือ คลิปวิดีโอ

การเข้าใช้งาน FTP: การเข้าใช้งาน FTP เป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจากมี ความสามารถในการอัปโหลดหน้าใหม่ บางเว็บโฮสต์อาจให้บริการให้ คุณเพียงออกแบบหน้าเว็บของคุณด้วยตัวสร้างเว็บ ซึ่งอาจมีประโยชน์ สำหรับผู้เริ่มต้น แต่ท่านต้องให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการเว็บโฮสต์สามารถจัด หาพื้นที่ให้ได้ในภายหลังเมื่อธุรกิจออนไลน์ของคุณขยายตัว

ระดับความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัยและความเร็วของการเข้าใช้งาน: ความเร็ว ระบบความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือได้ มีความสำคัญ อย่างยิ่งสำหรับความสำเร็จของทุกธุรกิจออนไลน์ ขณะที่เลือกเว็บ บริการโฮสต์ที่เชื่อถือคุณต้องให้แน่ใจว่าสิ่งนี้จะได้รับการดูแล เช่น เว็บไซต์ที่ไม่แสดงเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับการปรับปรุง หรือ เว็บไซต์ล่ม ซึ่ง ทำให้สูญเสียผู้เข้าชมออนไลน์ หากผู้เข้าชมออนไลน์พบเว็บไซต์ของ คุณที่ปรากฏอยู่ใน Search Engine และ พยายามเข้าเว็บไซต์คุณไม่ได้ เขาก็จะย้ายไปที่ลิงค์ถัดไป และที่สำคัญ คุณสูญเสียลูกค้าหรือผู้เข้าชม แม้แต่เว็บไซต์ที่ทำงานช้า แล้วคุณจะทราบอย่างไรว่าบริษัทให้ บริการพื้นที่เป็นที่น่าเชื่อถือ หรือไม่ จากคำบอกเล่า หรือ คำแนะนำ จากผู้อื่น หรือ! หากคุณไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ของคุณได้ ทั้งระหว่าง ช่วงเวลาชั่วโมงสูงสุด และช่วงเวลาปกติ เว็บไซต์ของคุณจะต้อง ปลอดภัยจากผู้บุกรุกได้ในเวลาเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากเป็น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

พึ่งพาได้ และ การให้บริการ: เว็บมีให้บริการโฮสต์ ตลอดช่วงเวลา 24 ชั่วโมง 7 วัน หรือไม่ พวกเขาตอบปัญหาได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ หาก คุณต้องการบริการทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับกรณี บริษัท ใหญ่แล้ว จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง

ราคา: ราคายังเป็นปัจจัยหนึ่งที่คุณควรระวัง โฮสต์ที่แพงที่สุดอาจไม่ใช่โฮสต์ดีที่สุด ให้เปรียบเทียบราคา และการให้บริการ ก่อนจะตัดสินใจ

การถ่ายโอนข้อมูล (แบนด์วิดธ์): คุณยังต้องดูว่าบริษัทโฮสต์ให้แบนด์ วิธเพียงพอสำหรับการ ถ่ายโอนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
คุณจะต้องมั่นใจว่าคุณจะได้รับการบริการที่ดีที่สุด สําหรับเงินที่คุณจ่ายไป

Posted in โฮสติ้ง | Tagged , | Comments Off on ธุรกิจออนไลน์ต้องมี hosting ที่มีประสิทธิภาพ

การทำธุรกิจ hosting อย่างไรให้เติบโตอย่างมั่นคง

starcontrols

การทำธุรกิจ hosting ต้องมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจ ต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าและการจัดการที่ชาญฉลาดเพื่อให้ธุรกิจ hosting เติบโตอย่างมั่นคง การทำธุรกิจ hosting มีแนวโน้มที่น่าจะทำธุรกิจ hosting ได้ ซึ่งวิธีการตรวจสอบความพร้อมในการทำธุรกิจ hosting ประกอบด้วย

1.กล้าเสี่ยง การทำธุรกิจทุกชนิดจะต้องกล้าเสี่ยง เพราะว่าหากมัวรีรอแล้ว ธุรกิจ hosting ก็จะไม่เจริญก้าวหน้าฉะนั้นจะต้องพิจารณาก่อนว่ามีความพร้อมด้านนี้หรือเปล่า เพราะหากเป็นคนชอบความมั่นคงปลอดภัย การทำธุรกิจ hosting ก็ไม่เหมาะสมจะทำให้ความเครียดเพิ่มมากขึ้นกลายเป็นไม่สนุกกับงาน hosting ที่ทำ ดังนั้นจำเป็นจะต้องมีการวางแผน เช่น การเสียส่วนน้อยไปเพื่อให้ได้ส่วนมาก แต่ถ้าหลายครั้งก็อาจจะไม่ได้อะไรเลย

2. มองการณ์ไกล การที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ hosting ได้นั้น ต้องเป็นคนที่สามารถคาดคะเน คาดเดาเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในแวดวงธุรกิจ hosting ได้ เพราะหากรู้จักที่จะคาดเดาสถานการณ์แล้วจะทำให้สามารถก้าวล้ำหน้ากว่าคู่แข่งได้อีกทาง ฉะนั้นผู้ที่ทำธุรกิจ hosting จะต้องรู้จักคิด รู้จักจินตนาการและวางแผนให้ดี

3. ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ทำธุรกิจ hosting จะพลาดไม่ได้ เนื่องจากการทำธุรกิจอยู่บนโลกออนไลน์การได้รับข่าวสารต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจ hosting เพราะจะช่วยให้รู้กระแสทางธุรกิจ hosting แนวทางการปรับตัว เพื่อให้สามารถที่จะปรับกลยุทธ์ต่าง ๆ ทางธุรกิจ hosting ได้อย่างเหมาะสม

4. ความซื่อสัตย์ เป็นข้อสำคัญของผู้ทำธุรกิจ hosting เพราะว่าหากคิดเอาเปรียบลูกค้าจะทำให้ธุรกิจ ดังนั้นการมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าจะช่วยให้สร้างความพึงพอใจในบริการ hosting ได้เป็นอย่างดี

5. ความตรงต่อเวลา การทำธุรกิจ hosting นั้นจะต้องมีความตรงต่อเวลาเพราะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือ ความไว้ใจในธุรกิจ hosting เช่น โดเมนกำลังจะหมดอายุ หรือ การต่ออายุต่าง ๆ การติดตามชื่อโดเมนที่ลูกค้าต้องการ

6. การรักษาคำพูด เป็นข้อสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ hosting เช่น การสัญญาว่าจะให้ส่วนลด การให้พื้นที่ทำเว็บไซต์เพิ่ม ขึ้น ผู้ให้บริการ hosting จำเป็นที่จะต้องรักษาคำพูด เพราะจะช่วยให้มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

ดังนั้นผู้ประกอบการที่สนใจจะทำธุรกิจประเภทนี้ควรจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่กล่าวมาเป้นอย่างมากเพื่อให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าไปได้ด้วยดีและมั่นคง

Posted in โฮสติ้ง | Tagged , , | Comments Off on การทำธุรกิจ hosting อย่างไรให้เติบโตอย่างมั่นคง

การให้บริการเว็บโฮสติ้งแบบ “Free Web Hosting”

สิ่งแรกสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์คือเราต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองก่อนและ ขั้นตอนสำคัญต่อไปที่เราต้องทำต่อคือ การหาโฮสติ้งเพื่อเก็บข้อมูลและให้เว็บไซต์ออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต ซึ่งบริการเว็บโฮสติ้งก็มีอยู่หลายแบบหลายชนิด ในการเลือกบริการเว็บโฮสติ้งให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญ และควรคำนึงถึงการใช้งานของเว็บไซต์เป็นหลัก ถ้าเราเป็นนักเรียนนักศึกษาที่สนใจในการทำเว็บไซต์ หรือเป็นมือใหม่ประสบการณ์ยังไม่มากนักและอยากที่จะลองทำเว็บไซต์แต่ไม่อยาก ลงทุนกับโฮสติ้ง Free Web Hosting น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมแต่ก็ยังคงมีคำถามคาใจมากมายตามมาเกี่ยวกับการ ใช้บริการโฮสติ้งแบบ Free Web Hosting

ต่อไปนี้เป็นวิธีที่จะช่วยในการตัดสินใจให้ง่ายขึ้นในการเลือกใช้บริการเว็บ โฮสติ้งแบบ Free Web Hosting กับคำถามคาใจเกี่ยวกับบริการเว็บโฮสติ้งชนิดนี้

ฟรีจริงหรือไม่?

เป็นคำถามแรกที่จะผุดขึ้นมาในหัวของเราว่าการบริการเว็บโฮสติ้งแบบ Free Web Hosting จะฟรีจริงๆหรือของฟรีไม่มีในโลก ซึ่งโดยทั่วไปที่เราเคยพบเห็นคือผู้ให้บริการบางรายจะทำการใส่โฆษณาบนหน้า เว็บไซต์ของเราโดยอาจจะมีการใส่ Text links และมี Pop-up โฆษณาต่างๆมารบกวนใจเราตลอด เช็คให้ดีก่อนในข้อนี้ว่าผู้ให้บริการ มีเงื่อนไขอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยน กับบริการที่เค้าให้ฟรี เลือกเงื่อนไขที่เรารับได้

อะไรคือข้อดีข้อและข้อเสียของการเลือกใช้บริการเว็บโฮสติ้งแบบ Free Web Hosting?

Free Web Hosting เป็นที่น่าสนใจและค่อนข้างดีสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองทำอะไรเกี่ยวกับ เว็บไซต์ของตัวเอง และเหมาะกับผู้ที่ต้องการนำไปใช้สำหรับทำ Blog หรือทำเว็บไซต์เพื่อทดลอง Script บนโฮสติ้งจริง กลุ่มนักพัฒนาเว็บไซต์ที่ยังไม่ต้องการลงทุนกับการเสียเงินในการใช้โฮสติ้ง แบบอื่นๆ หรือองค์กรขนาดเล็ก กลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการฝึกฝนพัฒนาความรู้ความสามารถและหา ประสบการณ์ใหม่ๆ รวมไปถึงเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมที่มีความต้องการออกแบบเว็บไซต์ หรือทำเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์กับส่วนรวม

ข้อเสียของ Free Web Hosting คือการที่ไม่สามารถมี domain เป็นของตัวเองได้ เพราะการที่มี domain เป็นของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญในการมีสถานะที่แข็งแกร่งในโลกออนไลน์ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในข้อเสียของ Free Web Hosting คือการที่เราจะมีแค่ sub domain name ในผู้บริการบางรายอาจแถมโดเมน และ/หรือ อนุญาตให้เรามีโดเมนได้ แต่ต้องดูให้ดีเพราะเค้าอาจล๊อกโดเมนของเราไว้เป็นชื่อเค้า

ในส่วนของการใช้งานจะมีขีดจำกัดอยู่ค่อนข้างมาก เว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานจากทรัพยากรของเครื่องได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งปริมาณ bandwidth ก็ถูกจำกัด

อีกอย่างที่ด้อยกว่าคือ ความช่วยเหลือทางด้าน technical และ customer support ก็มีให้น้อย เพราะถ้าเว็บไซต์เกิดปัญหาขึ้นในทาง technical ก็จะใช้เวลานานในการแก้ไข

จะเลือกแบบไหนดี?

คำตอบที่ดีที่สุดของคำถามนี้คือ เราจะต้องรู้จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ในการมีเว็บไซต์ของเรา ถ้าแค่มีเพื่อ share รูปภาพ หรือแค่มีพื้นที่เป็นของตัวเองในโลกออนไลน์ Free Web Hosting ก็เป็นทางเลือกที่ใช้ได้ แต่ถ้าต้องการทำการตลาดให้ธุรกิจและการบริการเว็บไซต์ของเราในโลกออนไลน์ web hosting ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

Posted in โฮสติ้ง | Tagged | Comments Off on การให้บริการเว็บโฮสติ้งแบบ “Free Web Hosting”

บริการเว็บโฮสติ้งให้เหมาะกับธุรกิจให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

บริการเว็บโฮสติ้งให้เหมาะกับธุรกิจให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

หลายคนอาจเคยได้ยินหลายคนเคยได้ยินเขาพูดถึงกันว่าเว็บโฮสติ้งที่ไหนดีเว็บโฮสติ้งนี้ไม่ดีล่มบ่อย แต่ก็มีหลายคนที่ไม่รู้ว่าความหมายจริงๆคืออะไรและมีกี่ชนิดแล้ว เราควรเลือกแบบไหนให้เหมาะสมกับเราและเว็บไซต์ของเรา ให้แปลแบบตรงๆ บริการเว็บโฮสติ้งก็คือบริการพื้นที่สำหรับฝากเว็บไซต์แต่ถ้าให้อธิบายละเอียดขึ้นไปอีก บริการเว็บโฮสติ้งเป็นบริการให้เช่าพื้นที่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ออนไลน์บนระบบอินเตอร์เน็ตสำหรับเก็บไฟล์เว็บไซต์ฐานข้อมูลและอีเมลล์เพื่อให้เว็บไซต์ออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตและสามารถใช้งานรับส่งอีเมลล์ได้ ส่วนใครที่ยังไม่เข้าใจขออธิบายง่ายๆให้คิดว่าบริการเว็บโฮสติ้งเหมือนกับที่ดินส่วนเว็บไซต์ก็เหมือนกับตัวบ้านหรือร้านค้าของเราและอีเมลล์ของเราเปรียบได้กับกล่องรับจดหมาย ดังนั้นก่อนที่เราจะสร้างบ้านเราหรือร้านค้าก็ต้องมีที่ดินซึ่งถ้าเราเลือกที่ดินดีๆบ้านเราก็ไม่พังลงมาสามารถรับส่งจดหมายได้สะดวกโดยที่ดินที่ดีก็ต้องอยู่ติดถนนใหญ่เช่นเดียวกับเว็บโฮสติ้งที่ดีก็ควรอยู่บนระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อที่จะให้คนที่จะมาบ้านเรามาได้สะดวกรวดเร็วไม่ติดขัดหากเปรียบเทียบแบบนี้จะทำให้เข้าใจบริการเว็บโฮสติ้งง่ายขึ้นและอธิบายกับคนที่ยังไม่เข้าใจหรือไม่รู้จักได้ง่ายขึ้นเยอะ

Hosting เป็นบริการสำหรับผู้ให้บริการจัดทำเว็บไซต์ผู้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อนำไปจัดสรรแบ่งพื้นที่ให้กับลูกค้าที่มาจ้างทำเว็บไซต์หรือขายต่อในนามของตัวเองและยังเหมาะสำหรับคนที่มีหลายเว็บไซต์ที่ต้องดูแลเนื่องจากสามารถบริหารจัดการได้ผ่านระบบควบคุมเดียวควบคุมได้ทุกเว็บ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบริการหลักๆของเว็บโฮสติ้งเท่านั้น เนื่องจากบริการอาจถูกปรับเปลี่ยนและเรียกกันในชื่อบริการใหม่เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งแต่ละราย ส่วนการเลือกบริการเว็บโฮสติ้งที่เหมาะสมนั้น ควรคำนึงถึงเว็บไซต์ของเราและการใช้งานที่เกิดขึ้นจริงโดยไม่จำเป็นต้องซื้อบริการที่เกินความจำเป็นเพราะเว็บไซต์สามารถย้ายจากบริการเว็บโฮสติ้งที่เล็กกว่าไปใช้บริการเว็บโฮสติ้งที่ใหญ่ขึ้นได้ตลอดเวลาดังนั้นหากเราเพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์หรือเว็บไซต์ของเรายังไม่โตหรือขยายมากก็อาจจะเริ่มจากบริการขนาดเล็กก่อนเมื่อเว็บไซต์ของเรามีขนาดใหญ่ขึ้นผู้เข้าชมมากขึ้นเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงบริการได้ด้วยวิธีนี้จะทำให้เราไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็นอีกด้วย

Posted in โฮสติ้ง | Tagged | Comments Off on บริการเว็บโฮสติ้งให้เหมาะกับธุรกิจให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย